ณ เวลาปัจจุบันคงเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ใครหลาย ๆ คน รวมถึงสื่อต่าง ๆ รอบตัวที่มุ่งเน้นให้เราไขว่คว้าความ ‘ประสบความสำเร็จ’ ในชีวิต
แน่นอนว่าเหตุผลที่เราหรือใคร ๆ ต่างก็ต้องการการประสบความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากสิ่งนี้จะนำพามาซึ่งชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ห่วงหลาย ๆ อย่างที่มีอาจจะลดน้อยลง ไม่เพียงแค่ความสำเร็จที่ใฝ่ฝันถึง ระยะเวลาที่อยากจะประสบความสำเร็จจะให้ดีก็ควรจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ ใครกันจะอยากประสบความสำเร็จช้า
ซึ่งหากให้นิยามถึงความสำเร็จที่ ‘ชี้วัด’ ได้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘จำนวนเงิน’ ที่แต่ละคนหาได้
แล้วเงินสามารถทำให้คนมีความสุขได้รึเปล่า?
คำตอบคือ “ได้” อย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ “เงินซื้อความสุขได้รึเปล่า?”
แต่คนที่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน มีความสุขอย่างแท้จริงหรือไม่?
ในหนังสือ How Will You Measure Your Life?โดย Clayton M. Christensen ผู้เป็นทั้งอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจที่มีอิทธิพลในด้าน ‘แนวคิดนวัตกรรม’ กลับให้ความสำคัญในด้านการใช้ชีวิตมากกว่าในด้านธุรกิจ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เองก็ถูกเขียนขึ้นในช่วงท้ายของอาชีพของเขา (ผู้เขียนเสียชีวิตเมื่อปี 2020) คำถามที่ผู้อ่านอาจสงสัยว่าเพราะเหตุใดผู้เชี่ยวชาญจึงให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตมากกว่าด้วยสาเหตุใด?
ก่อนที่จะเป็นอาจารย์หรือนักคิดที่โด่งดัง Christensen ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษา โดยเขาได้สำเร็จการศึกษาในด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกอย่าง Harvard ซึ่งนั่นเองก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ตัวเขาถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนที่ ‘มุ่งสู่ความสำเร็จ’ อย่างแท้จริง
Christensen เล่าว่าสิ่งที่เขาสังเกตในทุกครั้งที่มีการเลี้ยงรุ่น เพื่อน ๆ ในรุ่นต่างประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ หลายคนมีตำแหน่งการงานที่ดี บ้างก็เป็นผู้บริหารแนวหน้าในบริษัทที่เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่ถูกจัดอันดับใน Fortune 500
พวกเขามีเงินเดือนในระดับที่คนส่วนใหญ่ได้แต่ฝันถึง แต่ความสุขในด้านชีวิตของพวกเค้ากลับไม่ได้เพิ่มพูนขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งหลายคนเองก็แสดงออกว่าพวกเขามีความทุกข์ในชีวิตอย่างชัดเจน ทั้งมีปัญหาหย่าร้าง การแต่งงานที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า หรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับลูกของตัวเอง
รูปจาก Austin Distel on Unsplash
มองย้อนกลับไปก็พบว่าพวกเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นคนที่ฉลาดและมุ่งมั่นมาตลอด แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนที่ฉลาดที่สุด มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จมากที่สุด และมีรายได้ที่ถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มที่ได้รับมากที่สุดในสังคมอเมริกัน แต่กลับพบว่าตัวเองไม่มีความสุขกับชีวิต?
บางทีการตั้งเป้าหมายชีวิตด้วย ‘สิ่งที่ชี้วัดได้ง่ายที่สุด’ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไป
ถึงแม้ว่าเงินจะทำให้คนเรามีความสุขมากขึ้นได้ แต่หากจะหาหนึ่งปัจจัยที่สามารถทำนาย “ความสุข” ได้อย่างแม่นยำในระยะยาว คำตอบกลับเป็นสิ่งที่ต่างออกไป
ในช่วงปี 1938 หรือประมาณ 80 กว่าปีมาแล้ว ที่มหาวิทยาลัย Harvard University (อีกแล้ว) ได้ทำการทดลองศึกษา โดยมีหัวข้อการทดลองที่เรียกได้ว่าง่ายมาก นั่นก็คือ “อะไรคือปัจจัยที่ช่วยชี้วัดความสุขของมนุษย์ได้ดีที่สุด?” สิ่งที่นักวิจัยทำคือศึกษากลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นกลุ่มผู้ชายวัยรุ่น (ณ ขณะนั้น) จำนวนกว่า 724 คน ซึ่งมาจากหลากสถานะทางสังคม และหลายโอกาสทางการศึกษา
โดยนักวิจัยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ตลอดทุก ๆ สองปี เพื่อดูว่าแต่ละคนในกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในชีวิตมากน้อยเพียงใด รวมถึงมีเหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงนั้น ๆ บ้าง
หลังจากที่รวบรวมข้อมูลต่างๆมาต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน (จากกลุ่มตัวอย่างที่ยังไม่เสียชีวิต เหลือเพียงแค่ 60 กว่าคน) ในที่สุดนักวิจัยก็ได้ค้นพบปัจจัยที่มีนัยยะสำคัญที่จะทำนายว่าคนหนึ่งคนมีความสุขในชีวิตมากน้อยเพียงใด ไม่ใช่เรื่องการศึกษา ตำแหน่งงานที่ได้รับ หรือ จำนวนเงินที่แต่ละคนหาได้
คำตอบที่เหล่านักวิจัยได้ค้นพบเป็นสิ่งที่เรียบง่ายกว่านั้นมาก
รูปจาก Brooke Cagle on Unsplash
คำตอบก็คือ ‘ความสัมพันธ์ที่มีต่อคนรอบข้าง’ ซึ่งไม่ใช่แค่จำนวนความสัมพันธ์ที่มี แต่รวมถึงคุณภาพของความสัมพันธ์ด้วย
ผลของงานวิจัยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีผลแค่กับความสุข หรือสุขภาพจิตเท่านั้น แต่กระทบกับสุขภาพกายและร่างกายไม่แพ้กัน นักวิจัยค้นพบว่าการที่คนเราไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างนั้น อาจจะส่งผลต่อสุขภาพเทียบเท่ากับการติดเหล้าหรือสูบบุหรี่ได้เลยล่ะ
แล้วอะไรคือความสัมพันธ์ที่ดี ?
ความสัมพันธ์ที่ดีไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องมีความสุขตลอดเวลา หรือไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งใด ๆ กับคนรอบข้างเลย คำถามที่จะชี้วัดว่าคุณมีความสุขหรือไม่ อาจจะเป็นคำถามที่ว่า “หากคุณต้องประสบกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ยากลำบาก คุณคิดว่าคุณมีคนที่คุณสามารถพึ่งพาได้หรือไม่?”
รูปจาก mauro mora on Unsplash
ในช่วงเวลาปกติที่เราถูกรายล้อมไปด้วยคนรอบข้างและสื่อที่คอยตอกย้ำว่าให้เรามุ่งหน้าความสำเร็จที่วัดได้ง่าย และกระตุ้นให้เราทำให้ได้โดยเร็ว ไม่แปลกที่เราต่างที่จะเหยียบคันเร่งชีวิต เพราะไม่อยากตามหลังคนอื่น ๆ
แต่ในช่วงสถานการณ์ที่เรามีโอกาสได้อยู่คนเดียว และใช้เวลาทบทวนสิ่งต่าง ๆ ต่างหากที่ถือว่าเป็นโอกาสดี ที่เราจะใช้เวลาในการจัดลำดับความสำคัญใหม่ แล้วลองใช้เวลาทบทวนถามกับตัวเองว่า “ตอนนี้เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เป็นยังไงกันบ้างนะ?” หรือ “ฉันจะใช้โอกาสนี้ในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวฉันกับคนที่ฉันให้ความสำคัญได้ยังไงดี?” แล้วลงมือทำ
เพราะการทักทายสอบถามสารทุกข์สุกดิบเพียงง่าย ๆ กับคนที่คุณให้ความสำคัญ เป็นกิจกรรมที่สร้างความสุข
แม้จะชี้วัดอย่างชัดเจนไม่ได้เหมือนจำนวนเงิน
แต่มีผลต่อชีวิตของเราอย่างแน่นอน