เมื่อเงินไม่ใช่ทุกอย่าง ความสำเร็จและเป้าหมายที่เปลี่ยนไปของพนักงานเงินเดือน
หากจะให้ยกปรากฏการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในโลกการทำงาน ช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น The Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ
Photo by Timon Studler on Unsplash
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ทำให้ผู้คนเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างกระทันหัน ทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่ในหลายๆ ด้าน รวมถึงในด้านการทำงานนี่เอง จากการทำงานแบบ on site สู่ work from home ทำให้วิถีชีวิตนั้นเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีคนบางส่วนที่เริ่มคุ้นชินกับการทำงานแบบ WFH มากขึ้น การอยู่บ้านทำให้พวกเขามีเวลาในการ explore และ reflect ตัวตนและความถนัดในด้านต่าง ๆ ที่อาจไม่เคยทำมาก่อน ช่วงเวลาเหล่านี้จึงสร้างความหมายใหม่ๆ ให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนได้มีเวลาที่จะทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้นและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเป้าหมายในการทำงาน
แต่ก็มีบางส่วนที่ตัดสินใจลาออกเนื่องจากการวิธีการจัดการของบริษัทต่อพนักงานในช่วงการแพร่ระบาดทำให้พนักงานเกิดความเครียด จึงทำให้พวกเขาเริ่มหาบริษัทที่มีสวัสดิการด้าน wellness ที่ดีกว่าเดิม
กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือการที่ลูกจ้างบริษัท 2/3 ในสหรัฐอเมริกาเลือกที่จะลดเงินเดือนเพื่อแลกกับ WFH ต่อไป แม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงการแพร่ระบาดดังที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
Photo by Thought Catalog on Unsplash
นี่อาจเป็นจุดพลิกผันของมายด์เซ็ทการทำงานที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลกปัจจุบัน
จากชีวิตที่มั่นคงด้วยเงินเดือนและสวัสดิการที่ถูกเพิ่มขึ้นจากทั้งประสบการณ์และระยะการทำงาน
สู่การมองหางานในฝันที่อาจไม่มั่นคงเท่ากับงานประจำที่ทำอยู่ แต่สามารถตอบแทนในแง่ของการใช้ชีวิต และสุขภาพจิตที่ดีได้
เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วที่คนกลับมาสนใจดูแลสุขภาพจิตและแสวงหาตัวตนมากขึ้น กระแสการลาออกที่เกิดขึ้น จึงเป็นเหมือนผลลัพท์ที่สะท้อนภาพของคนยุค Millenial หรือกลุ่มบุคคลที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี ซึ่งเป็นกำลังสำคัญกับตลาดงานในเวลานี้ให้ความสำคัญกับการจัดการชีวิตให้ลงตัวมากกว่าการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองดังเช่นคนยุคก่อนหน้า
จากผลสำรวจของ Mindshare ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับชาติด้านวัฒนธรรมสุขภาพจิตในที่ทำงาน พบว่ามิลเลนเนียลมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานประจำเพื่อรักษาสุขภาพจิต การเปลี่ยนแปลงทางความคิดนี้เกิดขึ้นทั้งในกลุ่มมินเลนเนียลและกลุ่มวัยรุ่น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมความสำเร็จในวัยทำงานที่เปลี่ยนแปลง
Photo by Mathieu Stern on Unsplash
ไม่ใช่เรื่องของเงินอีกต่อไป
การที่เหล่าลูกจ้างเลือกเส้นทางใหม่ให้ตนเองจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ The great resignation ไม่ใช่เพราะเงินไม่สำคัญ หากแต่เป็นการมองถึงแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิต เพราะการทำงานกินเวลาเกินครึ่งต่อสัปดาห์ การที่ต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการทำงานจึงสร้างผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตมากกว่าที่เราคิด
ใน SNS ประเทศไทยเองก็มีการพูดถึงชีวิตการทำงานที่ลงตัวกันมากขึ้น เพราะงานไม่ใช่แค่เงินที่จะได้รับในช่วงปลายเดือนหรือเมื่อเสร็จสิ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่ควรได้รับการใส่ใจและให้คุณค่าจากทั้งตนเองและผู้อื่น
อย่างไรก็ดีแนวคิดเหล่านี้ยังต้องรอดูผลในระยะยาว เนื่องจากทุกๆ คนมีความต่างของปัจจัยแวดล้อมในชีวิตที่แตกต่างกันไป ตัวเลือกการตัดสินใจที่มีจึงต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาในทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่อไป
ถ้าเป็นคุณล่ะ จะเลือกอะไร ?
https://www.bbc.com/…/20210906-are-we-becoming-less…
https://www.bbc.com/…/20210629-the-great-resignation…
https://www.mindsharepartners.org/mentalhealthatworkreport
https://www.gallup.com/…/millennials-jobs-promote.aspx…
https://9to5mac.com/…/25/continued-work-from-home-pay-cut/